น้ำมันรั่ว อ่าวพร้าว จาก ปตท.เคมิคอล อาจจะมีอะไรมากกว่าที่คิด ??
วันนี้เห็นข่าวฮอตฮิตเรื่องน้ำมันดิบรั่ว ที่แท่นรับน้ำมันจังหวัดระยอง ของ PTT Global Chemical ทุกๆคนคงจะได้เห็นรายงานข่าวทั่วๆไปแล้วโดยสรุปคือ
วันที่ 27 ก.ค. เวลา 6.50 น. เรือบรรทุกน้ำมันที่นำเข้าจากเมืองนอกกำลังถ่ายน้ำมันดิบมายังโรงกลั่น PTTGC ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้วรั่ว ที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ (Single Point Mooring) ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเกิดเหตุวาล์วอัตโนมัติก็ทำงานหยุดการจ่ายน้ำมันดิบทันที จากรายงานของ PTTGC แจ้งว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลจำนวนประมาณ 50,000 ลิตร
หลังจากน้ำมันรั่วลงทะเลผู้ใหญ่ใน PTTGC แจ้งว่าได้ควบคุมการกระจายน้ำมันดิบได้แล้ว โดยใช้เครื่องบินโปรยสารเคมีในบริเวณที่เกิดเหตุจนน้ำมันหมด แต่สารเคมียังเหลือก็ยังโปรยซ้ำเพื่อให้หมดจดจริงๆ แต่ปรากฎว่าไม่กี่วันได้มีน้ำมันดิบไปโผล่ที่อ่าวพร้าวได้ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดในการปฏิบัติการระงับเหตุฉุกเฉินนี้ จากนั้นทาง PTT Group ก็ได้ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อฟื้นฟูและเก็บกู้อ่าวพร้าวกันอย่างที่เห็น
ข้อสันนิษฐาน ที่น่าสนใจคือ
1.ท่อรับน้ำมันที่เกิดแตกนี้รับแรงดันได้ถึง 28 บาร์ และมีอายุการใช้งาน 5 ปี ณ เวลาที่ท่อเกิดแตกนั้นมีแรงดันเพียง 8 บาร์เท่านั้น และอายุของท่อมีเพียงปีกว่าๆเท่านั้นเอง เป็นไปได้หรือไม่ที่ มีคนวางยาจะเลื่อยขาเก้าอี้ของ ดร.ไพรินทร์ นายใหญ่ของ PTTGroup เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการพยายามจะเปลี่ยนตัวนายไพรินทร์อยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยก่อนหน้านี้ประธานบอร์ด ปตท.คนก่อนหน้าคือนายณอคุณ สิทธิ์พงศ์ ก็ออกไปแล้วดันนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี มาแทน การที่จะเด้ง ดร.ไพรินทร์ วงในรู้กันว่าเป็นเพราะเหตุใด
2.น้ำมันดิบโผล่มาอ่าวพร้าวได้อย่างไร ??? จากการสันนิษฐาน คือก่อนหน้านี้ได้ฟังคำพูดของผู้ใหญ่ PTTGC พูดออกสื่อว่า ตอนนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่พอมีน้ำมันมาโผล่อ่าวพร้าวก็พูดเนื้อหาประมาณว่า น้ำมันก้อนนี้ไม่ทราบว่าโผล่มาได้อย่างไร ทีแรกฟังแล้วก็นึกว่า เฮ๊ย ทำไมพูดงี้ฟระ ไม่รู้เรื่องได้ไง แต่พอคิดลึกๆแล้วหรือว่าเค้าจะสื่อว่า ควบคุมได้แล้ว แต่ใครฟระแม่งมาปล่อยของที่อ่าวพร้าวตั้งใจจะให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้นมา
3.ออกตัวก่อนว่านี่คือการวิเคราะห์ส่วนตัวใช้ความรู้สึกล้วนๆ จุดเริ่มต้นของข้อสงสัยมาจากการให้สัมภาษณ์ในทีแรกว่ามีน้ำมันรั่วประมาณ 50,000 ลิตร ถ้าตีแล้วก็จะประมาณรถขนน้ำมันเกือบ 2 คันเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับการที่พวกโรงกลั่นจะมีระบบ safety vault ที่จะปิดระบบอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุท่อแตกท่อระเบิด (ท่อที่แตกเป็นท่อยางอ่อนไม่ใช่ท่อส่งหลักๆที่วางก้นทะเล) และการที่ PTTGC กล่าวว่ามีเครื่องบินโปรยสารเคมีกำจัดหมดจดและโปรยซ้ำเพื่อความชัวร์ด้วยนั้น ก็จะสอดคล้องกับปริมาณ 50,000 ลิตรที่ว่าไว้ คือมันดูสมเหตุสมผล (ณ วันที่ออกข่าวน่ะนะ)
4.น้ำมันจำนวนมหาศาลมาโผล่ที่อ่าวพร้าว ดูจากสายตายังไงก็ต้องมากกว่าปริมาณน้ำมันจากรถขนน้ำมันแค่ 2 คันแน่นอน (5หมื่นลิตร) อันนี้ไม่ต้องผู้เชี่ยวชาญก็ดูออก ซึ่งมันทำให้ย้อนกลับไปว่า หากPTTGroup จะปิดข่าวว่าน้ำมันมีแค่ 5 หมื่น ก็คงจะบิดเบือนน้อยมากเกินไป หรือไม่งั้นก็คงต้องมีปัญหาในการคาดคะเนและดูถูกวิจารญญาณของประชาชนและสื่อเป็นแน่ เพราะมันเทียบกันแล้วก็นะ……
ทำให้มองมุมกลับว่าถ้าโกหกคงไม่โกหกแบบดูติ๊งต๊องแบบนี้หรอก หรือว่าที่เค้าพูดว่าน้ำมันรั่วแค่ 5หมื่นนั้นเป็นเรื่องจริง คือที่มันรั่วออกมาก็มีแค่นั้นแหล่ะ แต่น้ำมันดิบที่มาโผล่อ่าวพร้าวนั้นโผล่มาโดยมือที่สาม (ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร)
อย่างไรแล้วตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงขึ้นมา และบริษัทประกันเองก็ต้องมีทีมเข้ามาสอบด้วย และการที่จะซ่อมท่อและทำการรับน้ำมันดิบอีกครั้งหนึ่ง ทาง PTTGC เองคงต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงก่อนเพราะหากหาสาเหตุไม่เจอหากทำต่อไปก็อาจจะเกิดเหตุซ้ำอีกก็ได้
เราอาจจะได้เห็นข้อสรุปเหตุการณ์นี้ก็ได้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ถึงจะมีเซอร์ไพร์ก็ไม่รู้จะโดนปิดข่าวหรือเปล่าอีก สุดท้ายก็คือเรื่องนี้คงเป็นปริศนากันต่อไป คงจะมีแต่คนในเท่านั้นที่จะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จุดประสงค์ของบทความนี้คือ อยากให้มองอีกมุมนึงที่อาจจะไม่มีคนมอง ซึ่งต้องบอกว่าก็เป็นได้แค่ข้อสันนิษฐานของคนขี้สงสัยเท่านั้นเอง อย่าไปเชื่อไรมาก